2. พระเป็นเจ้าทรงรัก


2. พระเป็นเจ้าทรงรักเรา
               พ่อบอสโก ได้รับบทเรียนจากมารดาของท่าน และได้อบรมเด็ก ๆ ให้เข้าใจถึงความงามของธรรมชาติและความเชื่อในฤทธานุภาพของพระผู้สร้าง ท่านเล่าว่าวันหนึ่ง ในปี 1851 พ่อบอสโก ได้เล่าว่า "หลังจากพ่อทำงานตลอดวันแล้ว เวลาประมาณ 23.00 น. พ่อได้ออกไปมองดูท้องฟ้าที่หน้าบ้าน พ่อมองดูท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล กำลังจ้องมองดูดวงจันทร์ ดาวดาราต่าง ๆ บทท้องฟ้าเหลือที่จะคณานับได้ ในเวลาสงบเงียบยามค่ำคืน พ่อรู้สึกพิศวงในพระฤทธานุภาพของพระผู้สร้าง และอุทานว่า "โอ อานุภาพของพระเป็นเจ้า ช่างน่าพิศวงยิ่งใหญ่เพียงใด" ท่านมักเตือน เด็กๆ ในโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในทุ่งนา ตามเนินเขาให้เข้าใจและซาบซึ้งในความงามของธรรมชาติ" (ดอนบอสโกนักอบรม หน้า 459)
            ยามค่ำคืน มารีอา มัสซาแรลโลกับบิดา มองดูดวงจันทร์ ดาราบนท้องฟ้า หนูน้อยมารีอา ถามบิดาว่า "คุณพ่อค่ะ ก่อนสร้างโลกพระเป็นเจ้าทรงทำอะไร" .....(ประวัติมารีอา มัสซาแรลโลเล่ม 1)
            "ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงรักทุกสิ่งที่มีชีวิต พระองค์ทรงพระกรุณาต่อทุกสิ่ง เพราะทุกสิ่งเป็นของพระองค์" (ปชญ 11:26) นี่คือที่มาของความมั่นใจว่า เรามนุษย์และทุกสิ่งที่มีชีวิตในจักรวาล ล้วนถูกสร้างขึ้นโดยพระบิดาองค์เดียวกัน เราจึงเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยสายสัมพันธ์ที่มองเห็นไม่ได้ และเป็นครอบครัวจักรวาลเดียวกัน เป็นความสนิทสัมพันธ์ที่ผลักดันให้เรามีความเคารพอันศักดิ์สิทธิ์  อ่อนโยน และสุภาพ (พระสมณสาส์น สมเด็จพระสันตะปาปา Laudato Sì )
             "อย่ากังวลถึงชีวิตของท่านว่าจะกินอะไร อย่ากังวลถึงร่างกายของท่านว่าจะนุ่งห่มอะไร ชีวิตย่อมสำคัญกว่าอาหาร และร่างกายสำคัญกว่าเครื่องนุ่งห่มมิใช่หรือ จงดูนกในอากาศเถิดมันมิได้หว่าน มิได้เก็บเกี่ยว มิได้สะสมไว้ในยุ้งฉาง แต่พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงมัน ท่านทั้งหลายมิได้มีค่ามากกว่านกหรือ จงมองดูดอกไม้ในทุ่งนาเถิด มันเจริญงอกงามขึ้นได้อย่างไร มันไม่ทำงาน มันไม่ปั่นด้าย พระองค์ทรงดูแลและตกแต่งให้งดงาม" (มัทธิว 6:25-30)

ไม่มีความคิดเห็น