2. พระเป็นเจ้าทรงรัก
เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ฉันกำลังรดน้ำ ต้นกุหลาบอยู่ในสวนดอกไม้ พี่ของฉันจูงสุนัขปุกปุยน่ารัก ตัวหนึ่ง วิ่งมาอย่างสนุกสนาน ทำให้ฉันต้องหยุดรดน้ำ หันมามองดูสุนัขตัวนั้นด้วยความสนใจ
“เอ๊ะ พี่จำรัสเอาสุนัขน่ารักจัง มาจากไหน” ฉันถามพลางก้มลงจะจับมัน
แต่มันวิ่งหนีไป
“ลุงให้ น่ารักไหมล่ะ จำเริญ แถบนี้ไม่มีใครสู้ชื่อเจ้าปุย” พี่ตอบอย่างภาคภูมิใจ
แล้ววิ่งไปจับมันอุ้มมานั่งที่เก้าอี้
ฉันรีบรดน้ำต้นไม้จนเสร็จ
แล้วมานั่งข้าง ๆ พี่ แดดกำลังร่ม ลมพัดเย็นสบาย นกกางเขน
หลายตัวบินไล่กันไปอย่างร่าเริงตามต้นละมุด พี่เอามือลูบขนสุนัขเล่น
“วันนี้เย็นสบายจริงนะ พี่” ฉันพูด เอามือลูบหัวเจ้าสุนัขนั้น
“จริง จำเริญ เราต้องขอบคุณพระ” พี่พูดด้วยแววตาอันร่าเริงแจ่มใส “คิดดูซิ
เพื่อจะให้เราอยู่อย่างสุขสบายในโลกนี้ พระเป็นเจ้าได้ทรงสร้างสิ่งต่าง
ๆ มากมายเพียงไร
“พระเป็นเจ้าคงได้คิดไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนแล้วจึงได้สร้างมนุษย์ให้มาอยู่ในโลก
จริงไหมพี่”
“ถูกแล้ว น้อง พระเป็นเจ้าได้คิดโครงการไว้ก่อนอย่างละเอียดที่สุด
พระองค์คิดแล้วว่า จะสร้างมนุษย์ให้มีธรรมชาติอย่างไร
คือร่างกายและวิญญาณ ร่างกายของเราต้องการ อาหาร เสื้อผ้า
บ้านที่พักอาศัย ความอบอุ่น และของใช้ต่าง ๆ นานาชนิด
พระเป็นเจ้าทรงทราบดีว่าเราต้องการอะไร
พระองค์ทรงสร้างสิ่งเบื้องต้นที่จำเป็น แล้วให้มนุษย์มีสติปัญญาความสามารถต่าง
ๆ สำหรับเล่าเรียนวิชาหาความรู้ รู้จักทำงาน
สร้างและประดิษฐ์เครื่องใช้เอาเอง ชีวิตของเราจึงเต็มไปด้วยการงานอันเป็นประโยชน์
เรามีความสุขความยินดีในการเล่าเรียน ในการปลูกดอกไม้ เลี้ยงสัตว์ เล่นดนตรี เป็นต้น”
“คิด ๆ ดูก็แปลกนะพี่” ฉันพูด
พลางชี้มือไปยังสวนดอกไม้ ที่มีดอกไม้ชนิดต่าง
ๆ ขึ้นอยู่งามสะพรั่ง กุหลาบ ดาวเรือง มะลิ บานชื่น หน้าวัว ชูช่อชูใบอยู่ไสว “ทำไมพระเป็นเจ้าจึงได้ทรงสร้างดอกไม้มามากมายหลายชนิด
เช่นนี้ สีสวย ๆ และกลิ่นหอม
ที่จริงจะทรงสร้างสักชนิดสองชนิดก็พอกระมัง”
“อย่าว่าแต่ดอกไม้เลย นกในอากาศมีกี่ชนิด
สัตว์บก สัตว์น้ำในแม่น้ำลำคลอง ในทะเลมหาสมุทร แร่ธาตุ
ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ และสิ่งอันเร้นลับในธรรมชาติอีกมากมาย
พระเป็นเจ้าได้ทรงสร้างมาอย่างอุดมสมบูรณ์ สำหรับเรามนุษย์
ทีละคน และสำหรับทุก ๆ คน สำหรับครอบครัว
หมู่คณะ สำหรับประเทศชาติ ทั้งนี้
ก็เพื่อให้เราจะได้รู้จักและเข้าใจซึ้งถึงความรัก
ความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ไพศาลของพระองค์ พระองค์ทรงเอ็นดูต่อเราเหมือนพ่อแม่
อย่าดูอื่นไกลเลย แม้แต่พื้นดิน พระองค์ก็ยังทรงให้มีหญ้าขึ้นเขียวชอุ่มอ่อนนุ่ม
ยิ่งกว่าพรมของมนุษย์เสียอีก เพื่อเราจะได้วิ่งเล่นได้สบายไม่เจ็บเท้า”
“ถูกแล้วพี่” พระเป็นเจ้าดูช่างรักเราจริง
ๆ ดูเหมือนจะเป็นห่วงกลัวโลกที่เราอยู่นี้จะขาดแคลน แม้มนุษย์เราอยู่มาตั้งหลายพันปีแล้ว
แร่ธาตุ ของใช้ อาหารก็ยังมีอย่างอุดมสมบูรณ์”
“ความเอาใจใส่ในสิ่งเล็กน้อยนั่นแหละ
เป็นเครื่องหมายที่ดีที่สุดของความรัก” พี่พูดพลางชี้มือไปทางทิศตะวันตก
ซึ่งกำลังงามอร่ามด้วยสีแดง เหลือง
ม่วง อยู่ทั่วฟากฟ้า “จนกระทั่งเวลาดวงอาทิตย์จะตก
พระองค์ยังทรงให้ความสว่างค่อย ๆ จางหายไปทีละเล็กละน้อย
จนเราแทบไม่รู้สึก เวลารุ่งสาง
ดวงอาทิตย์ก็ค่อย ๆ โผล่ขึ้นจากขอบฟ้าขับไล่ความมืดไปทีละน้อย
เหมือนกลัวว่าจะทำให้เราต้องสะดุ้งตื่นและแสบตา ถ้าจะโผล่ขึ้นมาในทันที
และทุกเช้าค่ำ ท้องฟ้างามจับตาจับใจ เหมือนจะเตือนให้เรารู้พระคุณพระผู้สร้างซึ่งทรงเอ็นดูต่อเรามนุษย์ถึงปานนี้”
“เราต้องขอบพระคุณพระเป็นเจ้าทุกค่ำเช้า นะพี่นะ” ฉันกระซิบ
Post a Comment